Hato เราให้ความสำคัญกับการป้องกันก่อนการป่วย เพราะต้นทุนของการป้องกัน ราคาถูกกว่าค่ารักษาอย่างเทียบกันไม่ได้ ยังไม่รวมถึง คุณภาพชีวิต ที่เสียไป ระหว่างการป่วย ที่ประเมินคุณค่าไม่ได้
เห็บหมัด อันตรายถึงชีวิต แต่เราสามารถป้องกันได้ง่ายๆ ทุกๆเดือน แต่เชื่อไหมว่า มีพ่อแม่ไม่ถึง 20% ที่ป้องกันลูกๆอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ ทุกๆเดือน
วันนี้เราจะมาเล่าถึง 4 อันตรายจากเห็บหมัดกัน
1. โรคโลหิตจาง
เนื่องจากทั้งเห็บและหมัดเป็นปรสิตดูดเลือดที่กินเลือดเป็นอาหาร ดังนั้น หากน้องหมาของเรามีการติดเห็บหมัดในปริมาณมาก สุนัขก็จะถูกเห็บหมัดดูดกินเลือดจนเป็นตัวเต่ง ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลหิตจางตามมา
2. โรคพยาธิเม็ดเลือด
โรคพยาธิเม็ดเลือดชนิดนี้นี้เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากโดนเห็บกัด โดยขณะที่เห็บดูดเลือดก็จะปล่อยเชื้อพยาธิเม็ดเลือดที่ชื่อ อี.เคนิส ให้กับน้องหมา ซึ่งเชื้อจะเข้าไปอยู่ในเม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์ และทำลายเกล็ดเลือด ทำให้น้องหมาป่วยด้วยอาการอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง โลหิตจาง มักพบเลือดกำเดาไหลหรือมีจ้ำเลือดตามตัว ต่อมน้ำเหลืองและม้ามโต ซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง
เกิดจากถูกเห็บกัดเช่นเดียวกับ อี.เคนิส แต่เชื้อบาบีเซียจะมุ่งทำลายเม็ดเลือดแดงเป็นหลัก ทำให้น้องหมามีภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรง ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะเป็นสาเหตุให้น้องหมาเสียชีวิตได้เช่นกัน
เกิดจากการที่นเองหมากินเห็บที่มีเชื้อนี้เข้าไป พยาธิเม็ดเลือดเฮปาโตซูนก็จะทำให้สุนัขมีอาการ เป็นไข้ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร ขาหลังอ่อนแรง บางตัวถึงขั้นเดินขากะเผลกเนื่องจากกล้ามเนื้ออักเสบ
3. การติดเชื้อพยาธิตัวตืด
พยาธิตืดจัดเป็นพยาธิลำไส้ชนิดหนึ่ง อยู่ในจำพวกพยาธิตัวแบน ซึ่งพยาธิตัวแก่จะอาศัยอยู่ในลำไส้ของน้องหมาแล้วปล่อยปล้องที่คล้ายเม็ดแตงกวาหลุดปะปนมากับอุจจาระ พยาธิตัวตืดนี้ติดต่อผ่านหมัดที่กินไข่พยาธิเข้าไป แล้วสุนัขของเรามากินหมัดที่มีไข่พยาธินั้น อาการที่แสดงออกคือ ไม่จำเป็นจะต้องท้องเสียเสมอไป แต่อุจจาระอาจจะเหลวมากขึ้น อาจมีภาวะท้องมาน เนื่องมาจากการสูญเสียโปรตีนและสารอาหารไปให้พยาธิในลำไส้ ทำให้น้ำหนักลด มีอาการคันก้นอาจจะมีการเอาก้นไถพื้น
4.โรคภูมิแพ้น้ำลายหมัด
โรคนี้เป็นโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากการแพ้น้ำลายของหมัด ทำให้สุนัขมีอาการคันอย่างรุนแรงและมีผิวหนังแดงและอักเสบ ขนร่วง
